รัฐบาลย้ำ! ขายสิทธิ “คนละครึ่งพลัส” โทษหนัก

โครงการ “คนละครึ่ง” เพิ่มทางเลือกให้ผู้ใช้งานด้วยบริการฟู้ดเดลิเวอรี เชื่อมต่อ G-Wallet ให้เป็นช่องทางชำระเงินที่สะดวกยิ่งขึ้น แต่รัฐบาลเตือน! การขายสิทธิ “คนละครึ่งพลัส” โดยไม่มีการซื้อขายสินค้าจริง ถือเป็นการฉ้อโกง มีโทษจำคุกสูงสุด 3 ปี และต้องคืนเงินให้กับรัฐบาล

เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2568 นางสาวลลิดา เพริศวิวัฒนา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการขยายผลการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก และอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน รัฐบาลได้เปิดให้บริการ “ฟู้ดเดลิเวอรี” เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัสอย่างเป็นทางการ โดยประชาชนสามารถใช้สิทธิร่วมจ่ายผ่านระบบเดิมได้ทันที โดยการใช้งานจะดำเนินการผ่าน G-Wallet ซึ่งเชื่อมต่อเข้ากับแอปพลิเคชันฟู้ดเดลิเวอรีที่เข้าร่วมโครงการ G-Wallet จะปรากฏเป็นหนึ่งในช่องทางชำระเงินในระบบแอปพลิเคชันเดลิเวอรีโดยอัตโนมัติ ทำให้ประชาชนสามารถเลือกใช้สิทธิคนละครึ่งได้สะดวก ไม่ต้องสลับแอปพลิเคชัน หรือดำเนินการเพิ่มเติมให้ยุ่งยาก

รองโฆษกรัฐบาลกล่าวเพิ่มเติมว่า การเชื่อมต่อ G-Wallet เข้ากับแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี จะช่วยให้ประชาชนสามารถใช้สิทธิได้ทั้งในการซื้อสินค้าที่ร้านค้าโดยตรง และการสั่งผ่านเดลิเวอรี ช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย และเพิ่มกำลังซื้อ กระจายรายได้ให้กับผู้ประกอบการอาหารรายย่อยในทุกพื้นที่ “รัฐบาลย้ำว่ามาตรการคนละครึ่งยังคงเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับครัวเรือน การเปิดทางเลือกให้ใช้ผ่านบริการเดลิเวอรีจะช่วยขยายฐานผู้ใช้ไปยังครัวเรือนในเขตเมือง ผู้ที่ทำงานนอกบ้าน และประชาชนที่ไม่สะดวกเดินทางไปซื้อสินค้าเอง”

นางสาวอัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงกรณีที่มีการเผยแพร่ข้อความผ่านโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับการ “ขายสิทธิคนละครึ่งพลัส” ว่า รัฐบาลขอย้ำเตือนประชาชนที่ได้รับสิทธิคนละครึ่งพลัสแล้วนำสิทธิมาขายต่อให้ผู้อื่น รวมถึงร้านค้าหรือกลุ่มร้านค้าที่ร่วมมือกับผู้ได้รับสิทธิคนละครึ่งพลัส ใช้สิทธิโดยไม่มีการซื้อขายสินค้าจริง ถือเป็นการกระทำที่มีความผิดฐาน “ฉ้อโกง” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341/342 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และจะถูกระงับสิทธิไม่ให้เข้าร่วมโครงการอื่น ๆ ของรัฐบาล รวมถึงต้องคืนเงินให้กับรัฐบาลด้วย

โครงการคนละครึ่งพลัสของรัฐบาล มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาภาระค่าครองชีพ ในสถานการณ์เศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัว ผ่านวงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น เพื่อการศึกษา หรือวัตถุดิบเพื่อเกษตรกรรม จากร้านค้าธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น และร้านอื่น ๆ ตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด โดยเริ่มใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2568

สำหรับผู้ประกอบการร้านค้าและประชาชน สามารถตรวจสอบหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการฯ และรายละเอียดอื่น ๆ ได้ผ่านช่องทางดังนี้

  1. เว็บไซต์โครงการ: ติดตามรายละเอียดและข้อมูลข่าวสารได้ทาง www.คนละครึ่งพลัส.com
  2. ศูนย์ช่วยเหลือสำหรับประชาชน
    • ติดต่อสอบถาม โทร. 0-2111-1122 ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการและวันนักขัตฤกษ์ 24 ชั่วโมง
    • ตรวจสอบผลการลงทะเบียนหรือวงเงินคงเหลือ โทร. 0-2111-1122 กด 3 ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการและวันนักขัตฤกษ์ 24 ชั่วโมง
  3. ศูนย์ช่วยเหลือสำหรับร้านค้า
    • ติดต่อเกี่ยวกับรายการรับเงินภาครัฐ และการใช้งานแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” โทร. 0-2111-1122 กด 3 ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการและวันนักขัตฤกษ์ 24 ชั่วโมง
    • ตรวจสอบสถานะลงทะเบียนร้านค้า โทร. 0-2111-1122 กด 3 ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการและวันนักขัตฤกษ์ 24 ชั่วโมง
  4. สอบถามข้อมูลโครงการฯ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร. 08-5842-7102, 08-5842-7103, 08-5842-7104, 08-5842-7105 08-5842-7106, 08-5842-7107, 08-5842-7108, 08-5842-7109 ตั้งแต่วันจันทร์ – ศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 – 16.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

รัฐบาลย้ำขายสิทธิ “คนละครึ่งพลัส” ไม่ซื้อ-ขายสินค้าจริง ฉ้อโกง โทษหนัก

ต้องระวัง! ขายสิทธิ “คนละครึ่งพลัส” มีความผิด

การขายสิทธิโครงการคนละครึ่งพลัสนั้นมีความผิดทางกฎหมาย ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น ผู้ที่ได้รับสิทธิควรใช้สิทธิด้วยตนเองตามเงื่อนไขของโครงการ

ที่มา – รัฐบาลย้ำขายสิทธิ “คนละครึ่งพลัส” ไม่ซื้อ-ขายสินค้าจริง ฉ้อโกง โทษหนัก 3 ปี

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *