อนุทินยัน! “ครม.อนุทิน 1” ไม่ขี้เหร่ พร้อมฟื้นคนละครึ่ง

ว่าที่นายกฯ คนที่ 32 ยัน “ครม.อนุทิน 1” ไม่ขี้เหร่ เข้ามาแล้วต้องทำงานทันที ยึดสโลแกนทำวันนี้เสร็จเมื่อวาน รับเล็งฟื้น “คนละครึ่ง” มอบหมายว่าที่ รมว.คลัง พิจารณา ย้ำ อะไรดีทำต่อ

วันที่ 6 กันยายน 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ให้สัมภาษณ์ภายหลังเปิดตัว นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว จะมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง จะมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยวงดังกล่าวยังมี นายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ร่วมดื่มกาแฟกัน ที่ร้านจานิสตาร์ ชั้น 1 ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย และนายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ตามมาสมทบในภายหลัง โดยคาดว่าจะได้รับการเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ส่วนนายสันติ คาดว่าจะมาดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

เมื่อถามความคาดหวังในการกระตุ้นเศรษฐกิจจากกระทรวงการคลังในระยะสั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ทั้งในระดับจุลภาคและมหภาค ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อยู่ในกระทรวงการคลังมาโดยตลอด มีประสบการณ์ การทำงานทั้งต่างประเทศและในประเทศ เป็นอธิบดีมาหลายกรม เป็นผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ผู้อำนวยการรัฐวิสาหกิจ อธิบดีกรมสรรพากร อธิบดีกรมสรรพสามิต และอธิบดีกรมธนารักษ์ ท่านมีความรู้ความสามารถ ที่จะประสานงานกับฝ่ายประจำ ทำงานต่อเนื่องได้อย่างไม่มีปัญหา

ครม.อนุทิน 1 ไม่ขี้เหร่แน่นอน ทำวันนี้เสร็จเมื่อวาน

ส่วนการฟื้นโครงการคนละครึ่ง นายอนุทิน ระบุว่า ทุกอย่างเป็นไปได้หมดถ้าเป็นประโยชน์และเป็นความต้องการของพี่น้องประชาชน วันนี้ก็ดูเต็มที่ ก็จะเร่งมอบหมายให้ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เร่งพิจารณา เมื่อปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แล้วก็จะได้ดำเนินการต่อไปเพราะเวลาเรามีน้อย ไม่มาก ผู้สื่อข่าวถามต่อจะมีการสานต่อจาก Application เดิมหรือไม่ นายอนุทิน ยืนยันว่าอะไรที่ดีก็จะทำต่อ เราไม่มีเข้ามาแล้วบอกว่าอันนี้ไม่ใช่ของเรา ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน สิ่งนี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลของตนจะไม่ทำ

สำหรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะเข้ามาดำเนินการเรื่องข้อพิพาทไทย-กัมพูชา แก้ไข MOU 2543 และ 2544 หรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า ถ้าพูดถึงชื่อ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว เชื่อว่าทุกคนที่อยู่ในวงการการทูตความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและเศรษฐกิจน่าจะมีความพึงพอใจและมั่นใจ รัฐบาลนี้เข้ามา ท่ามกลางปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ ต้องได้รับการแก้ไขโดยเร็ว เพราะฉะนั้นต้องนำผู้ที่มีประสบการณ์ ต้องได้รับการยอมรับจากนานาชาติแก้ไขปัญหาโดยเร็ว เมื่อถามต่อไป ว่าที่ รมว.ต่างประเทศ มั่นใจว่าจะแก้ไขปัญหานี้ได้ใช่หรือไม่ นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องสำคัญ ต้องวางพื้นฐานให้เป็นระยะยาว ขณะที่มองว่าเป็นเผือกร้อนหรือไม่ นายสีหศักดิ์ ยืนยันว่าทุกอย่างต้องให้ความสำคัญ

นายอนุทิน ยังยอมรับด้วยว่า กว่าว่าที่รัฐมนตรีโควตาคนนอกจะตอบรับตนใช้เวลาหลายวันหลายคืน เพราะ นายเอกนิติ มีอายุราชการเหลืออีก 6 ปี ซึ่งความรู้ความสามารถยังมีอนาคตในทางราชการ สามารถก้าวหน้าไปได้มากกว่านี้อีก แต่ท่านก็เสียสละ เราเห็นพ้องต้องกันว่าเรื่องประเทศชาติ เรื่องพี่น้องประชาชนมีความสำคัญ ซึ่งคุณสมบัติความรู้ความสามารถของท่านขณะนี้ต่อให้พ้นวาระนี้ไป คงจะมีเส้นทางในอาชีพของท่านได้มากมาย ท่านขอเวลาคิด 2-3 คืนก็ตัดสินใจมาร่วมทำงาน ต้องถือว่าเป็นสิ่งที่ท่านตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิต โดยมุ่งมั่นถึงประเทศของเราและพี่น้องประชาชน

“ครม.อนุทิน 1” ไม่ขี้เหร่แน่นอน

ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ยังยืนยันด้วยว่าหน้าตา ครม. ไม่ขี้เหร่แน่นอน ต้องเป็น ครม. ที่เข้ามาแล้วทำงานได้เลย สโลแกนทำวันนี้เสร็จเมื่อวานของตนก็ยังถือว่าเป็นแนวทางการทำงานของพวกเราอยู่ ทางด้านคำถามว่าการจัดตั้งรัฐบาลจะให้แล้วเสร็จภายใน 1-2 วันนี้หรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่าจะทำให้เร็วที่สุด และคำนึงถึงกฎเกณฑ์ต่างๆ ทางการเมือง และเรื่องทางการเมืองตนคิดว่ามีความชัดเจนแล้ว อีก 4 เดือนก็ต้องยุบสภา ดังนั้นต้องทำทุกอย่างภายในอีก 4 เดือนให้เกิดผลงาน ให้เกิดความคืบหน้าและการแก้ปัญหาให้มากที่สุด

ผู้สื่อข่าวถามต่อมีโครงการใดที่ ครม.ชุดใหม่ ต้องการทำเพิ่มอีกบ้าง นายอนุทิน ตอบกลับว่าให้ใจเย็นๆ ให้รัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายในแต่ละกระทรวงมีอำนาจเต็มที่ในการกำหนดนโยบายด้วยความรวดเร็วโดยไม่ต้องรอว่าหัวหน้ารัฐบาลจะเอาด้วยหรือไม่ ซึ่งจะมาพูดว่าเดี๋ยวจะขัดกับพรรคโน้นพรรคนี้หรือไม่ ตนรับรองว่าไม่มี เราจะเอาประสบการณ์ที่มีของรัฐบาล 2-3 ชุดที่ผ่านมา ที่เห็นจุดอ่อนของการมีปัญหาและไม่ทำงาน ที่กังวลเรื่องความได้เปรียบเสียเปรียบกัน

มอบหมายว่าที่ รมว.คลัง ดูฟื้นโครงการ “คนละครึ่ง”

ในคำถามว่ากระทรวงกลาโหมควรจะเป็นทหารเข้ามานั่งเป็นรัฐมนตรีว่าการประจำกระทรวงหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ก็ต้องการให้เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถในวิชาชีพ ส่วนกระแสข่าวที่จะเป็น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม แข่งกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐนั้น นายอนุทิน เผยว่า หากตรงไหนมีความชัดเจนก็จะพามาเปิดตัวเช่นนี้ เพื่อให้พี่น้องประชาชน รับทราบโดยไม่ต้องคาดเดา ดังนั้นการที่ยังไม่พาคนอื่นมาแสดงว่ายังไม่แล้วเสร็จ หรือมีคำถามที่จะต้องเคลียร์กันก่อน

ในประเด็นคำถามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาขณะนี้ จำเป็นจะต้องเป็น พล.อ.ประวิตร หรือไม่ นายอนุทินบอกว่าอย่าถามแบบนี้ อะไรที่ตอบได้ก็ตอบ เพราะสไตล์การทำงานของตนไม่ต้องการให้ประชาชนมาคาดการณ์ใดๆ ถ้ามีความชัดเจนแล้วก็จะนำมาแนะนำตัวต่อพี่น้องประชาชนทุกคน ให้รับรู้รับทราบว่ารัฐบาลจะเป็นไปในทางใด พยายามจะทำงานให้ใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด ให้ทำเหมือนว่ามีส่วนร่วมในการบริหารประเทศร่วมกัน ฝ่ายการเมืองอย่างพวกเราฟังเสียงของพี่น้องประชาชนเป็นหลักอยู่แล้ว

เมื่อถามว่าภาพของ ครม.อนุทิน 1 ไม่ขี้เหร่ จะออกมาเป็นแบบใด นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นภาพมืออาชีพที่ทำงาน ผู้ที่ร่วมทำงานทุกคนมีความเป็นพี่น้องสมัครสมานสามัคคี เพราะตนเป็นสมาชิกใน 36 คนมาหลายสมัย มีความรู้สึกว่า ความสัมพันธ์ส่วนตัวแทบจะไม่มีเลย คุยแต่เรื่องที่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ไม่เคยมีการตัดสินใจร่วมกันเลย ภาพแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นในรัฐบาลของตนแน่นอน เนื่องจากทุกคนจะต้องเข้าใจเป้าหมายเดียวกันและเข้าใจภารกิจที่เรามีอย่างจำเพาะ ต้องให้ความร่วมมือซึ่งกันและกัน ไม่ใช่พรรคนี้เสนอ พรรคนี้ค้าน หัวหน้ารัฐบาลไม่ใช่มองว่าอันนี้ไม่เกิดประโยชน์กับพรรคตนเองก็ให้เรื่องช้าหน่อย สิ่งเหล่านี้จะไม่มี

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม ถึงตำแหน่งของนายสันติ ที่จะมานั่งเก้าอี้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน รีบปัดตอบว่าฝ่ายการเมืองเดี๋ยวมาพูดคุยกัน ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ว่าที่รัฐมนตรีทั้ง 4 คน ได้นั่งพูดคุยกับนายอนุทินด้วยบรรยากาศเป็นกันเอง และมีการเสิร์ฟเมนูเค้กส้มด้วย.

การที่นายอนุทินออกมาให้สัมภาษณ์ยืนยันถึงความพร้อมของ ครม.อนุทิน 1 ไม่ขี้เหร่ รวมถึงการพิจารณาฟื้นโครงการคนละครึ่งนั้น แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะเร่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้าต่อไป การที่รัฐบาลให้ความสำคัญกับการสานต่อนโยบายที่ดีอยู่แล้ว และพร้อมที่จะปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น ถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อประชาชน

ที่มา – ว่าที่นายกฯ ยัน “ครม.อนุทิน 1” ไม่ขี้เหร่ ทำวันนี้เสร็จเมื่อวาน เล็งฟื้น “คนละครึ่ง”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *