“พิพัฒน์” สั่ง เร่งคืนผิวจราจรเหตุถนนทรุด

“รองนายกฯ พิพัฒน์” ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุถนนทรุดหน้า รพ.วชิรพยาบาล สั่งรฟม. และผู้รับจ้างเร่งคืนผิวจราจรเหตุถนนทรุดภายใน 14 วัน และดูแลประชาชนรอบพื้นที่กว่า 100 ครัวเรือน

วันที่ 25 กันยายน 2568 เมื่อเวลา 16.00 น. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุการณ์ถนนสามเสนทรุดตัว บริเวณหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา โดยมีนายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม นายกาจผจญ อุดมธรรมภักดี ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธาโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน–ราษฎร์บูรณะ และที่ปรึกษาควบคุมงาน เข้าร่วมให้ข้อมูลและรายงานความคืบหน้าการแก้ไขสถานการณ์

นายพิพัฒน์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ รฟม. และผู้รับจ้าง เร่งคืนผิวจราจรเหตุถนนทรุดให้แล้วเสร็จภายใน 14 วัน เพื่อบรรเทาผลกระทบด้านการจราจรและความเป็นอยู่ของประชาชนโดยรอบ พร้อมกำชับให้ตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของโครงสร้างสถานีและอุโมงค์รถไฟฟ้าอย่างละเอียด รวมถึงตรวจสอบพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าอื่น ๆ ของ รฟม. ทั่วกรุงเทพฯ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนว่าโครงการมีความปลอดภัย

“สิ่งสำคัญที่สุดคือความปลอดภัยของประชาชน โดยอพยพและดูแลครัวเรือนกว่า 100 ครัวเรือนที่อยู่ใกล้พื้นที่เกิดเหตุให้เข้าสู่สถานที่ปลอดภัยเรียบร้อย หากสภาพอากาศเอื้ออำนวย หรือสามารถเร่งงานได้เร็วกว่ากำหนด ก็ต้องทำให้เร็วขึ้น แต่จะต้องตรวจสอบความปลอดภัยจนมั่นใจก่อนเปิดใช้งานถนนอีกครั้ง” นายพิพัฒน์ กล่าว

ทั้งนี้ รฟม. และผู้รับจ้างได้เร่งปิดรอยรั่วของดินและน้ำเข้าสถานีรถไฟฟ้า ป้องกันการทรุดตัวเพิ่มเติม และจะเริ่มซ่อมแซมผิวถนนทันทีที่โครงสร้างมีความมั่นคง โดยการคืนสภาพถนนและสาธารณูปโภคจะดำเนินการภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด

นายพิพัฒน์ย้ำว่า กระทรวงคมนาคมจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนรับทราบอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นใจว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้จะได้รับการแก้ไขอย่างเด็ดขาดและป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำในอนาคต

“พิพัฒน์” สั่ง เร่งคืนผิวจราจรเหตุถนนทรุดกลางกรุง ภายใน 14 วัน

เมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์ถนนทรุดตัวบริเวณหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นอย่างมาก ล่าสุด นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบสถานการณ์และสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาโดยด่วน

ความคืบหน้าล่าสุดในการเร่งคืนผิวจราจรเหตุถนนทรุด

จากเหตุการณ์ถนนทรุดดังกล่าว นายพิพัฒน์ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยสั่งการให้ รฟม. และผู้รับจ้างดำเนินการเร่งคืนผิวจราจรเหตุถนนทรุดให้แล้วเสร็จภายใน 14 วัน เพื่อลดผลกระทบต่อการจราจรและชีวิตประจำวันของประชาชน

นอกจากนี้ นายพิพัฒน์ยังได้กำชับให้ตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของโครงสร้างสถานีและอุโมงค์รถไฟฟ้าอย่างละเอียด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันเกิดขึ้นอีกในอนาคต รวมถึงตรวจสอบพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าอื่น ๆ ทั่วกรุงเทพฯ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในเรื่องความปลอดภัย

มาตรการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์

จากเหตุการณ์ถนนทรุด ทำให้ประชาชนกว่า 100 ครัวเรือนที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงได้รับผลกระทบ นายพิพัฒน์จึงได้สั่งการให้ดูแลและอพยพประชาชนไปยังสถานที่ปลอดภัย พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆ อย่างเต็มที่

การแก้ไขปัญหาเร่งคืนผิวจราจรเหตุถนนทรุดในครั้งนี้ ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการอย่างรอบคอบและรวดเร็ว เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด ทางภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ เพื่อให้สถานการณ์กลับคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็ววัน

เหตุการณ์ถนนทรุดครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนสำคัญที่ทำให้ทุกฝ่ายต้องตระหนักถึงความสำคัญของการตรวจสอบและบำรุงรักษาโครงสร้างพื้นฐานอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้นอีกในอนาคต การแก้ไขปัญหารวดเร็วและมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญ แต่การป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาตั้งแต่แรกนั้นสำคัญยิ่งกว่า

ที่มา – “พิพัฒน์” สั่ง เร่งคืนผิวจราจรเหตุถนนทรุดกลางกรุง ภายใน 14 วัน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *