เศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 ซบเซา จับตาคนละครึ่งพลัส

ธปท. คาด “โครงการคนละครึ่งพลัส” หนุน GDP ปี 68 โตมากกว่า 2.2% ส่วนเศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 ชะลอตัวจากอุตสาหกรรมและการลงทุน แต่เดือนกันยายนฟื้นตัวดีขึ้นจากการท่องเที่ยวและการส่งออกอิเล็กทรอนิกส์

นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายองค์กรสัมพันธ์ และโฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. และนางสาวปราณี สุทธศรี ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธปท. แถลงภาวะเศรษฐกิจและการเงิน ไตรมาส 3 และเดือนกันยายน 2568 ระบุภาพรวมเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 3 ชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อนหน้า จากการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ลดลง เนื่องจากบางสินค้าหยุดการผลิตชั่วคราว ส่งผลให้กิจกรรมในภาคบริการที่เกี่ยวข้องปรับลดลงไปด้วย ประกอบกับการลงทุนในภาคเอกชน ก็ลดลง -1.0% และรายรับนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง -0.5% ขณะที่การส่งออกสินค้าเพิ่มขึ้นจากหมวดอิเล็กทรอนิกส์ 0.7%

อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบเฉพาะกับเดือนสิงหาคม พบว่าในเดือนกันยายนเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น โดยการผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับกิจกรรมในภาคบริการปรับเพิ่มขึ้นทั้งในภาคการค้าและ การขนส่ง ด้านการท่องเที่ยวก็ขยายตัวมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น 5.8% และรายรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น 12.6% โดยเฉพาะจากนักท่องเที่ยวระยะใกล้ และการส่งออกสินค้าที่ไม่รวมทองคำขยายตัว 0.9% จากการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ อย่างไรก็ตาม อุปสงค์ในประเทศชะลอลงทั้งการลงทุนลดลง 4.5% และการบริโภคภาคเอกชน ลดลง -0.8%

ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในไตรมาสที่ 3 ติดลบ 0.74% จากหมวดอาหารสดและพลังงาน ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังเป็นบวก ตลาดแรงงานโดยรวมทรงตัวและดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล ส่วนในเดือนกันยายน อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบน้อยลงจากเดือนก่อนเล็กน้อย จากเงินเฟ้อหมวดพลังงานที่ผลของฐานสูงในปีก่อนทยอยลดลง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเป็นบวกลดลงจากเดือนก่อนส่วนหนึ่งจากการทำโปรโมชั่นอาหารโทรสั่งและของใช้ส่วนตัว ด้านตลาดแรงงานโดยรวมทรงตัว และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลจากดุลการค้า

นอกจากนี้ ธปท. ยังได้สอบถามความเห็นผู้ประกอบการถึงแนวโน้มธุรกิจในไตรมาส 4 โดยผู้ประกอบการประเมินว่า ภาคธุรกิจจะปรับตัวดีขึ้นกว่าไตรมาสก่อน จากมาตรการภาครัฐที่มีส่วนช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นและการใช้จ่าย เช่น คนละครึ่งพลัส ที่ช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่น การใช้จ่ายของผู้บริโภค ขณะที่ธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว ขยายตัวตามการเข้าสู่ฤดูการท่องเที่ยว โดยเห็นยอดจองล่วงหน้าจากนักท่องเที่ยวต่างชาติและคาดว่ามาตรการภาคเที่ยวไทยคนละครึ่ง เที่ยวดีมีคืน ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการท่องเที่ยวของคนไทยเพิ่มขึ้น

สำหรับประมาณการเศรษฐกิจ ปี 2568 ของ ธปท. คาดการณ์ไว้ที่ 2.2% โดยได้รวมมาตรการคนละครึ่งพลัสและการเปิดตลาดสินค้านำเข้าจากสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็น 99% จากเดิม 90% เข้าไปในประมาณการเศรษฐกิจแล้ว อย่างไรก็ตามยังต้องรอดูผลจากมาตรการคนละครึ่งพลัส หากมีการจับจ่ายใช้สอยมากกว่าที่คาด อาจส่งผลให้เศรษฐกิจไทยทั้งปี 2568 เติบโตมากกว่า 2.2%

ส่วนกรณีเพิ่มการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ เช่น ถั่วเหลือง และข้าวโพด เพื่อใช้ในการเลี้ยงสัตว์ ทางรัฐบาลมีแนวการบริหารจัดการ โดยจะนำเข้าช่วงที่ไม่ใช่ฤดูการเก็บของไทย จึงน่าจะไม่กระทบกับเกษตรกรไทย ยืนยันว่าการส่งออกที่โตขึ้น ไม่เกี่ยวข้องกับสินค้าสวมสิทธิ์ แต่การส่งออกที่เพิ่มขึ้นมาจากการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นวัฏจักรขาขึ้นในขณะนี้เท่านั้น

อ่านข่าว “นโยบายรัฐ” เพิ่มเติม

เศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 ซบเซา จับตาคนละครึ่งพลัส

“คนละครึ่งพลัส” จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริงหรือ?

การที่เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3 ชะลอตัวลงนั้น เป็นสิ่งที่น่ากังวล แต่การที่ ธปท. คาดการณ์ว่าโครงการคนละครึ่งพลัส จะช่วยหนุน GDP ปี 68 ให้โตมากกว่า 2.2% ก็เป็นสัญญาณที่ดี มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ที่รัฐบาลออกมานั้นมีส่วนสำคัญในการพยุงเศรษฐกิจให้เดินหน้าต่อไปได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจโลกยังมีความผันผวน

อย่างไรก็ตาม การพึ่งพามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียวอาจไม่ใช่ทางออกที่ยั่งยืน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การส่งเสริมการลงทุน และการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคธุรกิจ ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องทำควบคู่กันไป เพื่อให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้อย่างมั่นคงในระยะยาว

การจับตาดูผลของมาตรการคนละครึ่งพลัส จึงเป็นสิ่งที่ควรทำ เพื่อประเมินผลกระทบที่แท้จริงต่อเศรษฐกิจ และปรับปรุงนโยบายให้เหมาะสมต่อไป

ที่มา – ธปท. เผยเศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 ซบเซา จับตา “คนละครึ่งพลัส” หนุน GDP ปี 68 โตมากกว่า 2.2%

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *