เสียงสะท้อน! ชาวบ้านหนุนรัฐบาลใหม่รื้อฟื้น “คนละครึ่ง”
ชาวบ้านขานรับนโยบาย “คนละครึ่ง” หากรัฐบาลใหม่รื้อฟื้นใช้อีกครั้ง มองช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือนได้จริง
วันที่ 6 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก อำเภอบ้านด่าน จังหวัดบุรีรัมย์ หลังมีกระแสข่าวว่า พรรคภูมิใจไทย ภายใต้การนำของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของประเทศไทย มีแนวโน้มนำโครงการ “คนละครึ่ง” ซึ่งเคยใช้ในยุครัฐบาลของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาใช้อีกครั้งในช่วง 4 เดือนแรกของการบริหารงาน
ทั้งนี้ เมื่อประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่ต่างแสดงความเห็นในเชิงสนับสนุน โดยมองว่าเป็นนโยบายที่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากได้อย่างเป็นรูปธรรม
ทางด้าน นางสมบูรณ์ ช่างเกวียน อายุ 68 ปี แม่ค้าใน อ.บ้านด่าน กล่าวว่า โครงการคนละครึ่งในอดีตช่วยเพิ่มกำลังซื้อของประชาชนได้จริง ชาวบ้านเข้าใจการใช้งาน และสามารถเข้าถึงได้ง่าย หากรัฐบาลใหม่นำกลับมาใช้ ถือว่าเป็นเรื่องดี และจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้แน่นอน
 
ขณะที่ นางสุดาพัตร บำรุงแคว้น อายุ 57 ปี ชาวบ้านในพื้นที่เดียวกัน กล่าวว่า เคยใช้สิทธิโครงการคนละครึ่งมาแล้ว และรู้สึกว่าสามารถช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือนได้จริง แม้จะอยากได้การช่วยเหลือเต็มจำนวน แต่การกลับมาของโครงการคนละครึ่งก็ยังเป็นทางเลือกที่ดีและน่าจะเหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน
 
อย่างไรก็ตาม ประชาชนในพื้นที่ต่างจับตาว่ารัฐบาลชุดใหม่ จะมีท่าทีอย่างไรกับโครงการนี้ หากมีการนำกลับมาใช้จริง คาดว่าจะได้รับการตอบรับจากประชาชนอย่างกว้างขวาง.
เสียงตอบรับนโยบาย “คนละครึ่ง” จากประชาชน
จากกระแสข่าวการพิจารณานำนโยบาย “คนละครึ่ง” กลับมาใช้อีกครั้งในรัฐบาลชุดใหม่ ทำให้เกิดเสียงตอบรับอย่างกว้างขวางจากประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและผู้ประกอบการรายย่อย ต่างเห็นพ้องต้องกันว่าโครงการนี้เป็นเครื่องมือที่ช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่าย และกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทำไมประชาชนถึงสนับสนุน “คนละครึ่ง”?
หลายคนให้เหตุผลว่า โครงการ “คนละครึ่ง” ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้จริง ทำให้มีเงินเหลือสำหรับใช้จ่ายในด้านอื่นๆ มากขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย ซึ่งส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
- ช่วยลดค่าครองชีพ
- กระตุ้นการใช้จ่าย
- เข้าถึงง่าย ใช้งานสะดวก
นอกจากนี้ โครงการ “คนละครึ่ง” ยังเป็นที่ชื่นชอบของผู้ประกอบการรายย่อย เนื่องจากช่วยเพิ่มยอดขายและเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ ทำให้ธุรกิจขนาดเล็กสามารถอยู่รอดได้ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจไม่แน่นอน
ถึงแม้ว่าโครงการ “คนละครึ่ง” จะมีข้อดีมากมาย แต่ก็ยังมีบางส่วนที่กังวลเกี่ยวกับความยั่งยืนของโครงการ และผลกระทบต่อวินัยทางการเงินของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลสามารถบริหารจัดการโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และคำนึงถึงผลประโยชน์ระยะยาว โครงการ “คนละครึ่ง” ก็จะเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย
การกลับมาของนโยบาย “คนละครึ่ง” จึงเป็นที่น่าจับตามอง และเป็นความหวังของคนจำนวนมากที่จะช่วยให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นได้ในสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน
ที่มา – เสียงสะท้อนจากชาวบ้าน ขานรับนโยบาย “คนละครึ่ง” หากรัฐบาลใหม่รื้อฟื้นใช้อีกครั้ง


 
								