“พริษฐ์” มอง “อิ๊งค์” ลาออกก่อน 29 ส.ค. แค่เอาตัวรอด?
“พริษฐ์” ย้ำชัดจุดยืนพรรคประชาชนปมคลิปเสียง “แพทองธาร” คุย “ฮุน เซน” ควรรับผิดชอบตั้งแต่วันนั้น มอง หาก“อิ๊งค์” ลาออกก่อน 29 ส.ค. แค่เอาตัวรอด ชี้ ต้องทบทวนอำนาจองค์กรอิสระ
วันที่ 24 สิงหาคม 2568 นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ ที่รัฐสภา ถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กรณีคลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ในวันที่ 29 สิงหาคม 2568 ว่า ถ้าพูดถึงวันที่ 29 สิงหาคม จุดยืนของตนและพรรคประชาชนมองว่าจำเป็นต้องมีการทบทวนเรื่องขอบเขตอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ และองค์กรอิสระที่จะขยายขึ้นมาตั้งแต่ปี 2540 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งเราสื่อสารชัดเจนมาโดยตลอด
ดังนั้น ถ้านายกรัฐมนตรีแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองตามที่ควรจะเป็น เรื่องจะไม่ไปถึงศาลรัฐธรรมนูญแต่ต้น ตั้งแต่เกิดเรื่องคลิปเสียงทางตนและพรรคประชาชนเราสื่อสารมาโดยตลอดว่านายกรัฐมนตรีควรจะแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง ไม่ว่าจะทางการยุบสภาหรือลาออกก็ได้
นายพริษฐ์ กล่าวต่อไปว่า แต่แน่นอนตนได้ฟังคำชี้แจงของนายกรัฐมนตรีที่พยายามจะบอกว่า เนื้อหาของคลิปนั้นเป็นเทคนิคการเจรจา แต่เข้าใจว่าอีกมุมประชาชนก็สามารถที่จะถามกลับได้ว่า สิ่งที่คุณอ้างว่าได้พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน นั้นเป็นเทคนิคการเจรจา แต่จริงๆ แล้วคิดอีกแบบหนึ่ง แบบนี้จะไม่กังวลหรือว่าการสื่อสารกับประชาชนในทุกวันนี้ก็คือเทคนิคการเอาตัวรอด แต่ความคิดหนึ่งก็เป็นไปตามที่ได้คุยกับ สมเด็จฮุน เซน ฉะนั้นตนมองว่าพอคำพูดมีการกลับไปกลับมา และเปลี่ยนแปลงไปตามบริบท นั่นก็ย่อมกระทบต่อความไว้วางใจที่ประชาชนมีต่อนายกรัฐมนตรี และคิดว่าความจริงที่นายกรัฐมนตรีควรจะทำแต่วันนั้นคือการยุบสภาหรือลาออก
สำหรับในวันที่ 25 สิงหาคม ที่เป็นวันยื่นแถลงปิดคดีนั้น นายพริษฐ์ ระบุว่า เราไม่ได้มองแค่คำชี้แจงต่อศาลแต่เรามองถึงคำอธิบายของนายกรัฐมนตรีในทุกบริบทที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เรื่องไปถึงศาลรัฐธรรมนูญแล้วในวันที่ 29 สิงหาคม 2568 ก็จะมี 2 แนวทาง คือ ศาลวินิจฉัยให้นายกรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่ง และไม่ให้พ้นจากตำแหน่ง
ถ้าเป็นในกรณีไม่วินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่ง ตนมองว่าเรื่องก็จะกลับมาที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรว่าเราจะใช้กลไกสภาฯ อย่างไรในการตรวจสอบการทำหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี ทั้งในบริบทของคลิปเสียง หรือบริบทอื่นๆ ที่ผ่านมา ซึ่งกลไกไม่ว่าจะเป็นการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามมาตรา 151 หรือการอภิปรายทั่วไป ตามมาตรา 152 เป็นกลไกและเครื่องมือที่ฝ่ายค้านสามารถทำได้ แต่ถ้านายกรัฐมนตรีถูกวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่ง ก็จะเข้าสู่กระบวนการในการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ซึ่งจุดยืนของพรรคประชาชน อะไรที่เราเคยพูดไปแล้วก็ยังคงยืนยันจุดยืนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป
ส่วนคำถามต่อในกรณีที่นายกรัฐมนตรีลาออกก่อนวันที่ 29 สิงหาคม นายพริษฐ์ ตอบว่า ตนคิดว่านายกรัฐมนตรี ณ วันนี้จนถึงวันที่ 29 สิงหาคม หากตัดสินใจลาออก นั่นชัดเจนว่าเป็นการตัดสินใจลาออกก่อน 29 ส.ค. แค่เอาตัวรอด ความจริงสิ่งที่ประชาชนอยากเห็นตั้งแต่ก่อนหน้านี้คือการลาออกเพื่อรับผิดชอบต่อประชาชน ดังนั้นส่วนตัวมองว่า ถ้าวันนี้นายกรัฐมนตรีลาออก นั่นเป็นการลาออกก่อน 29 ส.ค. แค่เอาตัวรอด.
“อิ๊งค์” ลาออกก่อนศาล รธน. ตัดสิน 29 ส.ค. แค่เพื่อเอาตัวรอด
ทำไมนายพริษฐ์ถึงมองว่า “อิ๊งค์” ลาออกก่อน 29 ส.ค. แค่เอาตัวรอด?
สถานการณ์ทางการเมืองกำลังร้อนระอุ เมื่อศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ในวันที่ 29 สิงหาคม 2568 ที่จะถึงนี้ ประเด็นสำคัญอยู่ที่คลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จฮุน เซน ซึ่งนำมาสู่คำถามถึงความเหมาะสมและจริยธรรมทางการเมือง
นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา โดยเน้นย้ำว่าหากนายกรัฐมนตรีตัดสินใจลาออกก่อนวันที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน นั่นเป็นการกระทำเพื่อหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบมากกว่าการแสดงความรับผิดชอบต่อประชาชนอย่างแท้จริง
พรรคประชาชนยังคงยืนยันจุดยืนเดิมในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลอย่างเข้มข้น ไม่ว่าผลการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นเช่นไร กลไกสภาผู้แทนราษฎรพร้อมที่จะถูกนำมาใช้เพื่อตรวจสอบการทำหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม
การเมืองไทยยังคงต้องจับตาดูกันต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตัดสินใจของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ ซึ่งจะมีผลต่ออนาคตทางการเมืองของประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ดังนั้น การที่นายพริษฐ์ออกมาแสดงความคิดเห็นเช่นนี้ ก็เพื่อกระตุ้นเตือนให้นักการเมืองตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อประชาชน และให้ความสำคัญกับธรรมาภิบาลในการบริหารประเทศอย่างแท้จริง การลาออกเพื่อหนีปัญหาไม่ใช่ทางออก แต่การเผชิญหน้ากับความจริงและแสดงความรับผิดชอบต่างหากที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้
ที่มา – “พริษฐ์” มองหาก “อิ๊งค์” ลาออกก่อนศาล รธน. ตัดสิน 29 ส.ค. แค่เพื่อเอาตัวรอด
