สหรัฐฯ ฟ้องยึดทรัพย์ ปธ. Prince Group คดีหลอกลวง

สหรัฐฯ ฟ้องยึดทรัพย์ ปธ.บริษัท Prince Group เป็นบิตคอยน์มูลค่ากว่า 4.9 แสนล้านบาท ฐานเปิดศูนย์หลอกลวงในกัมพูชา ทั้งบังคับใช้แรงงานและฉ้อโกงเงินดิจิทัล มีเหยื่อทั่วโลก

เมื่อวันที่ 14 ต.ค. 2568 กระทรวงยุติธรรมยื่นฟ้องนาย เฉิน จื้อ ผู้ก่อตั้งและประธานกลุ่มบริษัท Prince Holding Group (Prince Group) ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจข้ามชาติที่มีฐานอยู่ในกัมพูชา เพื่อขอให้ริบทรัพย์สินครั้งใหญ่ที่สุด มูลค่าประมาณ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ในรูปแบบ Bitcoin ที่อยู่ในการดูแลของสหรัฐฯ

คำฟ้องต่อศาลรัฐบาลกลางในเมืองบรูคลิน รัฐนิวยอร์ก กล่าวหานาย เฉิน จื้อ หรือที่รู้จักกันในชื่อ วินเซนต์ ผู้ถือสัญชาติสหราชอาณาจักรกับกัมพูชา และมีเชื้อสายจีน วัย 37 ปี ในข้อหา สมคบคิดฉ้อโกงทางโทรศัพท์ และสมคบคิดฟอกเงิน จากการสั่งให้กลุ่ม Prince Group เปิดฐานหลอกลวงบังคับใช้แรงงานไปทั่วกัมพูชา

บุคคลที่ถูกกักขังไว้ในฐานที่มั่นดังกล่าวมีส่วนร่วมใน แผนการฉ้อโกงการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Pig Butchering” (หลอกเชือดหมู) ขโมยเงินหลายพันล้านดอลลาร์จากเหยื่อในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก โดยขณะนี้จำเลยยังอยู่ระหว่างการหลบหนี

ในวันอังคาร สำนักงานอัยการสหรัฐฯ ประจำเขตตะวันออกของนิวยอร์ก และแผนกความมั่นคงแห่งชาติของกระทรวงยุติธรรม ยังได้ยื่นฟ้องร้องทางแพ่งเพื่อ ริบทรัพย์สินของนายเฉิน เป็น Bitcoin ประมาณ 127,271 เหรียญบิตคอยน์ ซึ่งมีมูลค่าปัจจุบันประมาณ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4.9 แสนล้านบาท)

โดย Bitcoin เหล่านี้เป็นเงินที่ได้มาและเป็นเครื่องมือในการฉ้อโกงและการฟอกเงินของจำเลย ปัจจุบันเงินทุนเหล่านี้ รัฐบาลสหรัฐฯ อายัดเอาไว้แล้ว โดยการฟ้องร้องครั้งนี้ถือเป็นการดำเนินการริบทรัพย์สินครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของกระทรวงยุติธรรม

น.ส.พาเมลา บอนดี อัยการสูงสุดสหรัฐฯ และนายทอดด์ บลานเช รองอัยการสูงสุด กล่าวว่า “การดำเนินการในวันนี้ถือเป็นหนึ่งในการโจมตีครั้งสำคัญที่สุดเท่าที่เคยมีมาต่อมหันตภัยของการค้ามนุษย์และการฉ้อโกงทางการเงินที่ใช้ไซเบอร์เป็นเครื่องมือในระดับโลก”

“ด้วยการทำลายอาณาจักรอาชญากรรมที่สร้างขึ้นจากการหลอกลวงและการบังคับใช้แรงงาน เรากำลังส่งสารที่ชัดเจนว่า สหรัฐอเมริกาจะใช้เครื่องมือทุกอย่างที่มีเพื่อปกป้องเหยื่อ กู้คืนทรัพย์สินที่ถูกขโมยไป และนำตัวผู้ที่แสวงหาผลประโยชน์จากกลุ่มเปราะบางมาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรม เราขอขอบคุณสำหรับการทำงานอย่างหนักของผู้อำนวยการ พาเทล (ผอ.FBI) และเจ้าหน้าที่ชายหญิงของ FBI ทุกคน”

แถลงการณ์ของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ระบุอีกว่า นับตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นมา นายเฉิน จื้อ หรือจำเลยในคดีนี้ เป็นผู้ก่อตั้งและประธานของ Prince Group ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ในกัมพูชาที่ดำเนินกิจการธุรกิจหลายสิบแห่งในกว่า 30 ประเทศทั่วโลก

Prince Group นั้นตั้งเป้าหมายหลักในด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ บริการทางการเงิน และบริการผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม จำเลยและผู้บริหารระดับสูงได้ดำเนินการอย่างลับๆ ขยาย Prince Group ให้กลายเป็นหนึ่งใน “องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ” ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย

ภายใต้การสั่งการของจำเลย Prince Group ได้ทำกำไรมหาศาลจากการ ดำเนินการฐานที่มั่นของแก๊งหลอกลวง ทั่วกัมพูชา ซึ่งกระทำการ ฉ้อโกงการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล

แผนการของ Prince Group มุ่งเป้าไปที่เหยื่อทั่วโลก รวมถึงใน สหรัฐอเมริกา ด้วยความช่วยเหลือจากเครือข่ายท้องถิ่นที่ทำงานในนามของ Prince Group เครือข่ายหนึ่งได้ดำเนินการอยู่ใน บรูคลิน นครนิวยอร์ก และอำนวยความสะดวกในการโอนเงินที่ฉ้อโกงและการฟอกเงินหลายล้านดอลลาร์ในนามของ Prince Group จากเหยื่อกว่า 250 ราย ในนิวยอร์กและทั่วประเทศ

Prince Group ยังลักลอบนำแรงงานหลายร้อยชีวิตเข้ามาในกัมพูชา และบังคับให้พวกเขาใช้ทำงานหลอกลวง ในศูนย์ต่างๆ และบ่อยครั้งที่พวกเขาถูกข่มขู่ด้วยการใช้ความรุนแรง ศูนย์หลอกลวงดังกล่าวประกอบด้วย หอพักขนาดใหญ่ที่ล้อมรอบด้วยกำแพงสูงและลวดหนาม และทำหน้าที่เป็น ค่ายที่บังคับใช้แรงงานด้วยความรุนแรง

จำเลยมีส่วนร่วมโดยตรงในการ บริหารจัดการฐานที่มั่นของแก๊งหลอกลวง และเก็บรักษาบันทึกที่เกี่ยวข้องกับสถานที่แต่ละแห่ง มีบัญชีติดตามผลกำไรและบันทึกว่าแผนการฉ้อโกงใดดำเนินการจากสถานที่ใดบ้าง

จำเลยยังเก็บเอกสารที่อธิบายและแสดงภาพ “ฟาร์มโทรศัพท์” (phone farms) ในฐานที่มั่น ซึ่งเป็นศูนย์บริการทางโทรศัพท์อัตโนมัติที่ใช้โทรศัพท์หลายพันเครื่องและหมายเลขโทรศัพท์มือถือหลายล้านหมายเลขเพื่ออำนวยความสะดวกในการดำเนินแผนการฉ้อโกงต่างๆ

จำเลยยังมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงในการ ใช้ความรุนแรงต่อบุคคลที่อยู่ภายในค่ายบังคับใช้แรงงาน และครอบครองรูปภาพวิธีการใช้ความรุนแรงของ Prince Group ซึ่งรวมถึงภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นถึง การทุบตีและวิธีการทรมานอื่น ๆ จำเลยได้สื่อสารโดยตรงกับผู้ใต้บังคับบัญชาเกี่ยวกับการทุบตีบุคคลที่ “ก่อปัญหา” โดยในกรณีหนึ่งได้ระบุเจาะจงว่าเหยื่อ ไม่ควรถูก “ทุบตีจนตาย”

เพื่อดำเนินแผนการฉ้อโกงเหล่านี้ จำเลยและเครือข่ายใกล้ชิดของผู้บริหารระดับสูงของ Prince Group ได้ใช้ อิทธิพลทางการเมือง ของตนในหลายประเทศต่าง ๆ เพื่อปกป้ององค์กรอาชญากรรมของตน และได้ ติดสินบนเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกขัดขวางจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย

หลังจากนั้น พวกเขาได้ ฟอกเงินที่ได้จากการฉ้อโกง ผ่านปฏิบัติการฟอกเงินอย่างเป็นมืออาชีพและผ่านเครือข่ายกิจการธุรกิจที่ดูเหมือนจะถูกต้องตามกฎหมายของ Prince Group เอง ซึ่งรวมถึง การพนันออนไลน์และการขุดสกุลเงินดิจิทัล

จำเลยและผู้สมรู้ร่วมคิดนำเงินที่ได้จากการก่ออาชญากรรมบางส่วนไปใช้เพื่อ การเดินทางและความบันเทิงต่างๆ ซื้อ ทรัพย์สินฟุ่มเฟือยมากมายเช่น นาฬิกา เรือยอชต์ เครื่องบินเจ็ตส่วนตัว บ้านพักตากอากาศ ของสะสมราคาสูง และงานศิลปะหายาก ซึ่งรวมถึง ภาพวาดของปิกัสโซ ที่ซื้อผ่านโรงประมูลในนครนิวยอร์ก

หากถูกตัดสินว่ามีความผิดในคดีเหล่านี้ จำเลยจะต้องโทษจำคุกสูงสุด 40 ปี

อนึ่ง ในวันเดียวกันนี้ กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ยังกำหนดให้กลุ่ม Prince Group เป็น องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และ ประกาศมาตรการคว่ำบาตร ต่อจำเลย ตลอดจนบุคคลและนิติบุคคลที่เกี่ยวข้องหลายราย สำหรับบทบาทของพวกเขาในการกระทำผิดกฎหมาย

นอกจากนั้น สำนักงานต่างประเทศ เครือจักรภพ และการพัฒนาของสหราชอาณาจักร ก็ประกาศมาตรการคว่ำบาตรด้วยเช่นกัน

สิ่งที่เกิดขึ้นนี้สะท้อนให้เห็นถึงความรุนแรงของอาชญากรรมข้ามชาติและการหลอกลวงออนไลน์ที่นับวันยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น เราควรตระหนักถึงกลโกงเหล่านี้และระมัดระวังในการลงทุนออนไลน์อยู่เสมอ

ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign

ที่มา : justice.gov

สหรัฐฯ ฟ้องยึดทรัพย์ ปธ.บริษัท Prince Group เปิดศูนย์หลอกลวงในกัมพูชา

ล่าสุด สหรัฐฯ ได้ทำการ ฟ้องยึดทรัพย์ ปธ.บริษัท Prince Group จากการที่บริษัทนี้ได้เข้าไปเปิดศูนย์หลอกลวงในประเทศกัมพูชา

ทำไมสหรัฐฯ ถึงฟ้องยึดทรัพย์ ปธ.บริษัท Prince Group?

การตัดสินใจ ฟ้องยึดทรัพย์ ปธ.บริษัท Prince Group ของสหรัฐฯ มาจากการที่พบว่าบริษัทนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเปิดศูนย์หลอกลวงในกัมพูชา ซึ่งทำให้เกิดการฉ้อโกงและบังคับใช้แรงงาน

สถานการณ์นี้ทำให้เห็นถึงความสำคัญของการตรวจสอบและการบังคับใช้กฎหมายระหว่างประเทศในการจัดการกับอาชญากรรมข้ามชาติ

ที่มา – สหรัฐฯ ฟ้องยึดทรัพย์ ปธ.บริษัท Prince Group เปิดศูนย์หลอกลวงในกัมพูชา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *